การดำเนินงานแพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดสกลนคร ปี 2567

แพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดสกลนคร


เรื่อง: แตงโม สกลนคร (300568)

แม้การทำงานแก้จนในพื้นที่มีโจทย์ที่ท้าทายมาก แต่งานวิจัยและนวัตกรรมแพลตฟอร์มแก้จน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร สามารถบรรเทาความยากจนได้ 3,748 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 29.8 จากข้อมูลครัวเรือนยากจนทั้งหมด 12,572 ครัวเรือน ดำเนินงานตั้งแต่ พ.ศ.2563 ถึง ปัจจุบัน

ผลงานครั้งนี้ เกิดจากระบบและกลไก อว.ส่วนหน้า ที่ผนึกกำลัง 3 มหาวิทยาลัย ในจังหวัดสกลนคร คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ประชาชน

มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ดำเนินการวิจัยแพลตฟอร์มขจัดความยากจนในจังหวัดสกลนคร ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 – ปัจจุบัน (2568)

จากการดำเนินงาน มีแนวทางส่งเสริมพัฒนาทักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมหลายโมเดล ได้แก่ เศรษฐกิจชุมชน ห่วงโซ่มูลค่าคนจน สวัสดิการเกื้อกูล อุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ การบริหารจัดการเงิน และการจัดการภัยพิบัติ แต่ละโมเดลมีกลไกร่วมดำเนินงานที่สำคัญแตกต่างกันตั้งแต่ระดับครัวเรือน ระดับกลุ่มอาชีพ หน่วยงานระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงเอกชนซี่งเป็นภาคีที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพครัวเรือนในมิติรายได้แบบก้าวกระโดด

แพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดสกลนคร


6 กลยุทธ์สำคัญและผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาความยากจน

1 การสร้างกลไกความร่วมมือ

การขับเคลื่อนงานแก้จนภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างจังหวัดสกลนครกับส่วนราชการ และภาคประชาสังคมในจังหวัดสกลนคร มากกว่า 45 หน่วยงาน เพื่อการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำจังหวัดสกลนคร

บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสกลนคร (ศจพ.จ.) ได้สร้างนักบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (Area Manager) ที่มีแนวคิดและทักษะการขจัดความยากจน เพื่อเสริมพลังการทำงานในพื้นที่ผ่าน 2 กลไกสำคัญ คือ

  • นักจัดการงานวิจัยเชิงพื้นที่ (ARM) จำนวน 27 คน
  • นักจัดการงานพัฒนาเชิงพื้นที่ (ADM) จำนวน 27 คน

2 การพัฒนาระบบข้อมูลครัวเรือนยากจนแบบชี้เป้า

ฐานข้อมูลจากระบบ TPMAP จังหวัดสกลนคร ปี 2562 มีจำนวนคนจน 15,390 คน หรือ 10,690 ครัวเรือน เป็นเป้าหมายตั้งต้นในการดำเนินงาน ในปี 2567 ได้ค้นหาสอบทานข้อมูล 7 อำเภอ ร้อยละ 38 ของพื้นที่เป้าหมาย พบว่า มีคนจนรั่วไหล (Inclusion Error) ร้อยละ 84.40 และสามารถเพิ่มคนจนตกหล่น (Exclusion Error) ร้อยละ 31.72

ข้อมูลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นำข้อมูลเข้าระบบได้ 2,207 ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มีข้อมูลครัวเรือนยากจนในระบบ PPPConnext ตั้งแต่ปี 2563-2567 จำนวน 12,545 ครัวเรือน ซึ่งรวมทั้งข้อมูลคนจนหลายมิติ ตามนิยามของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กลไกที่สำคัญในการพัฒนาระบบข้อมูลซึ่งมีทั้งระดับอำนวยการและระดับปฏิบัติการ ประกอบด้วย นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนันผู้ใหญ่บ้าน อพม. และ อสม.

3 การพัฒนาระบบส่งต่อความช่วยเหลือและติดตามแบบมุ่งเป้า

พัฒนาระบบส่งต่อความช่วยเหลือ (ด้านสงเคราะห์) เริ่มส่งต่อข้อมูลครัวเรือนที่ต้องได้รับความช่วยเหลือถึงหน่วยงานตามภารกิจตั้งแต่ ปี 2563 – ปัจจุบัน พร้อมทั้งเริ่มพัฒนาระบบติดตามย้อนกลับ (Feedback Loop) ในปี 2565 ท่ามกลางความท้าทายคือการวิเคราะห์หน่วยงานติดตั้งระบบข้อมูล ซึ่งแต่ละหน่วยงานเริ่มพัฒนาระบบใช้เอง แต่ยังมีข้อจำกัดคือกลุ่มเป้าหมายยังไม่ครอบคลุม สามารถส่งข้อมูลความช่วยเหลือจำนวน 1,356 คน ด้านสวัสดิการ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย และทักษะอาชีพ มีผู้ใช้ระบบข้อมูล 10 หน่วยงาน

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ DSS (ด้านส่งเสริมอาชีพ) มหาวิทยาลัยเริ่มใช้ระบบนี้เมื่อปี 2566 มีจำนวนโครงการโมเดลแก้จน 7 โครงการ จำนวน Value Chain 16 โครงการ ซึ่งเป็นระบบด้านส่งเสริมอาชีพเป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น เมนูอาชีพ หลักสูตรอาชีพ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผู้รวบรวม SME กิจการ หน่วยงานในพื้นที่ นักพัฒนาเชิงพื้นที่ (ARM ADM) ซึ่งการส่งเสริมอาชีพมีผู้ได้รับผลประโยชน์ตั้งแต่ปี 2563 - 2567 จำนวน 2,392 ครัวเรือน

แพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดสกลนคร

4 การสร้างโมเดลแก้จนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

จังหวัดสกลนคร เริ่มพัฒนาโมเดลแก้จนการพัฒนาอาชีพปลูกผักตั้งแต่ ปี 2563 อยู่ที่บึงอาคะ ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ (กรมธนารักษ์) แล้วจึงขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ รวม 7 อำเภอในปัจจุบัน ได้แก่ อ.กุดบาก พรรณานิคม อากาศอำนวย เมืองสกลนคร กุสุมาลย์ พังโคน และวานรนิวาส ผ่านการวิเคราะห์กรอบการดำรงชีพอย่างยั่งยืน (SLF.) โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทพื้นที่มากกว่า 30 อย่าง มีผลลัพธ์หรือผลิตภัณฑ์จากโครงการมากกว่า 20 ชิ้น มีผู้ได้รับผลประโยชน์รวม 2,392 ครัวเรือน ในปี 2567 สามารถจำแนกได้ 3 โมเดล ได้แก่ โมเดล Local Content, โมเดล Pro-poor Value Chain และโมเดล Social Safety Net

โมเดลเศรษฐกิจชุมชนรายครัวเรือน Local Content

เป็นการพัฒนาอาชีพจากภูมิปัญญาท้องถิ่น มุ่งเน้นการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนรายครัวเรือน การลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนหรือการแบ่งปันเกิดสวัสดิการเกื้อกูล ได้แก่ ปลูกผัก เพาะเห็ด เลี้ยงกบ ปลูกข้าว (นาปรัง/นาปี) ปลูกพริก รูปธรรมความสำเร็จ คือ กองทุนปัจจัยการผลิต ได้แก่ กองทุนเพาะเห็ด 2 กลุ่ม และกองทุนข้าวนาปรัง 1 กลุ่ม ภาคีเครือข่ายที่สำคัญคือหน่วยงานภาครัฐและวิสาหกิจชุมชนเป็นพี่เลี้ยง

โมเดลห่วงโซ่มูลค่าคนจนเชื่อมโยงผู้ประกอบการ (Pro-poor Value Chain) และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมในพื้นที่

เป็นการยกระดับห่วงโซ่การผลิตเกิดการจ้างแรงงานคนจน ได้แก่ มันฝรั่ง กรุงเขมา รูปธรรมความสำเร็จคือการมีภาคีภาคธุรกิจเป็นผู้เล่นหลัก ได้แก่ บริษัท วาต้า ไทยเทรดดิ้ง จำกัด บริษัท นาริญา เฮอร์เบิล จำกัด และมีรายได้เพิ่มขึ้น 5 เท่า เพื่อยกระดับสู่คลัสเตอร์อุตสาหกรรมในพื้นที่

โมเดล Social Safety Net

เกิดการวางแผนดำเนินงานกองทุน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย

  1. การเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายคนจนกับระบบสวัสดิการสังคมในจังหวัดสกลนคร (Social Welfare) ที่เน้นช่วยเหลือคนจนตามปัญหาและความต้องการ
  2. การเสริมพลังคนจนด้วยกองทุนด้านความปลอดภัยในชีวิต (Social Safety Net) ที่เน้นยกระดับศักยภาพคนจนเข้ามามีบทบาทส่วนร่วมในกองทุน
  3. กองทุนแก้จนระดับจังหวัดสกลนคร
แพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดสกลนคร

5 การเชื่อมโยงงานวิจัยสู่ยุทธศาสตร์แผนพัฒนาระดับจังหวัดและท้องถิ่น

การขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ก่อนนำเข้าสู่แผนพัฒนา ทั้งกำลังพลจากท้องถิ่นตำบล และองค์ความรู้จากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในงาน แต่จำเป็นต้องเชื่อมโยงงานแบบเป็นทางการโดยนำงานวิจัยเข้าสู่แผนพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 6 ตำบล แผนพัฒนาอำเภอ 2 อำเภอ อำเภอบำบัดทุกข์บำรุงสุข ได้แก่ กุดบากโมเดลและอำเภออากาศอำนวย อีกทั้งเข้าแผนพัฒนาหน่วยงาน คือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

6 บทบาทของมหาวิทยาลัยแก้ไขปัญหาความยากจน

ในปี 2567 มหาวิทยาลัยเริ่มพัฒนาระบบและกลไก Area Management ทั้ง ARM และ ADM โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มีระบบและกลไกในการขับเคลื่อน โดยการจัดตั้งศูนย์วิจัยแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นกลยุทธ์ Exit strategy ขับเคลื่อนงานแก้จนปัญหาความยากจนต่อเนื่องหลายตัวแบบ ได้แก่
  • อำเภอแก้จน ได้แก่ อ.กุดบาก อ.อากาศอำนวย และ ปี 2568 อ.กุสุมาลย์
  • ท้องถิ่นแก้จน ได้แก่ เทศบาลนครสกลนคร (คนจนเมือง) และ ปี 2568 ต.โคกก่อง อ.เมืองสกลนคร
  • กองทุนแก้จนระดับจังหวัด เริ่มปี 2567
  • ตลาดแก้จน เริ่มปี 2567
  • ระบบเตือนภัยพิบัติ เริ่มปี 2567
  • การบริหารจัดการหนี้สิน เริ่มปี 2568
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า