สร้างคน สร้างการเป็นเจ้าของกิจการเห็ด: หัวใจสำคัญของโมเดลแก้จนที่ยั่งยืน



การแก้ไขปัญหา ความยากจน อย่างยั่งยืน ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินหรือวัตถุ แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่การ สร้างคน ให้มีศักยภาพและความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองและเป็น เจ้าของกิจการ ได้อย่างแท้จริง 

โมเดลแก้จน "ชุมชนเห็ดเศรษฐกิจ" ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างคนอย่างลึกซึ้ง โดยใช้การลงมือปฏิบัติจริงในการเพาะเห็ดเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังจิตวิญญาณของการเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและสร้างความภาคภูมิใจให้กับสมาชิกในชุมชน

บทความนี้จะเจาะลึกถึงกระบวนการสร้างคนและการบ่มเพาะความเป็นเจ้าของกิจการเห็ดในโมเดลนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนชุมชนให้หลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างยั่งยืน

นัยแฝงแห่งการสูญเสีย: สู่ความรู้สึกของการเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง

คำกล่าวที่ว่า "อาจารย์มาเอาเห็ดไปอีกแล้ว" อาจฟังดูธรรมดา แต่ในบริบทของโมเดลชุมชนเห็ดเศรษฐกิจ กลับแฝงไว้ด้วยนัยยะสำคัญของการ "การเป็นเจ้าของ" อย่างสมบูรณ์ อารมณ์ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมา สะท้อนถึงความผูกพันและความหวงแหนในสิ่งที่ตนเองได้ลงมือสร้างสรรค์มา เปรียบเสมือนการสูญเสียสิ่งที่รักและดูแลมาด้วยตนเอง

ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย หากพิจารณาถึงความผูกพันที่มนุษย์มีต่อสิ่งมีชีวิตหรือทรัพย์สินที่ตนเองได้ดูแลเอาใจใส่ เมื่อต้องสูญเสียไป ย่อมเกิดความรู้สึกห่วงใยและอาลัยอาวรณ์ เช่นเดียวกับการเพาะเห็ดในโมเดลนี้ ที่สมาชิกต้องใช้เวลาและความใส่ใจในทุกขั้นตอน

ปลูกความคิด ปลูกชีวิต ปลูกจิตวิญญาณ: กระบวนการสร้างเจ้าของกิจการ

"โมเดลชุมชนเห็ดเศรษฐกิจ" มีกระบวนการที่ออกแบบมาเพื่อ สร้างคน ให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงในทุกกิจกรรมของการเพาะเห็ด ตั้งแต่เริ่มต้นจนเก็บเกี่ยวผลผลิต กระบวนการเหล่านี้ประกอบด้วย:

  • ลงมือทำเองทุกกิจกรรม: สมาชิกมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรอเชื้อเห็ด การเตรียมวัตถุดิบ การปั้นก้อนเชื้อ การสร้างโรงเรือน การบ่มก้อนเชื้อเป็นเวลา 30 วัน และการดูแลเก็บเกี่ยวดอกเห็ดเป็นเวลา 4 เดือน
  • ใช้เวลารอคอย: กระบวนการเพาะเห็ดต้องอาศัยเวลาและความอดทนในการรอให้เชื้อเจริญเติบโตและให้ผลผลิต ซึ่งเป็นการบ่มเพาะความรับผิดชอบและความผูกพัน
  • ลงแรงกายใจ: การทำงานด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ทำให้สมาชิกเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของผลผลิตที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย
  • กลยุทธ์ปลูกความคิด ปลูกชีวิต ปลูกจิตวิญญาณ: กระบวนการทั้งหมดนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การผลิตเห็ด แต่ยังเป็นการปลูกฝังทัศนคติของการเป็นเจ้าของกิจการ การสร้างความภาคภูมิใจในผลงาน และการพัฒนาจิตวิญญาณของการเป็นผู้ผลิต

อาจารย์สายฝน กล่าวว่า เห็ดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสมาชิกไปแล้ว พวกเขาต้องคอยรดน้ำ ดูแล เก็บเกี่ยว และจำหน่ายผลผลิต แม้กระทั่งการขายก้อนเชื้อเห็ดที่ตนเองทำมา ก็ยังรู้สึกเสียดายและหวงแหน ความรู้สึกเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงภายใน ที่แสดงให้เห็นถึงการ สร้างคน ให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง

การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ผ่านการทำซ้ำ: ทฤษฎีและการปฏิบัติจริง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโมเดลชุมชนเห็ดเศรษฐกิจ สอดคล้องกับทฤษฎีการฝึกประชากรของประเทศญี่ปุ่น ที่เน้นการทำเรื่องเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติและพฤติกรรม การที่สมาชิกได้ลงมือปฏิบัติในกระบวนการเพาะเห็ดซ้ำๆ เป็นเวลา 3-4 เดือน ทำให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่ได้ลงมือสร้างแปลงเพาะเห็ดด้วยตนเอง ต้องเผชิญกับความเสียใจเมื่อเกิดความเสียหาย และความดีใจเมื่อได้ผลผลิต การผสมผสานของอารมณ์เหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ เมื่อได้ยินคำว่า “อาจารย์มาขอซื้อก้อนเห็ดไปอีกแล้ว” จึงเกิดความภาคภูมิใจและซาบซึ้งอย่างลึกซึ้ง เพราะนั่นหมายถึงกระบวนการถ่ายทอดทักษะได้บรรลุเป้าหมายอย่างสมบูรณ์

ความสวยงามที่ต้องสัมผัสด้วยตนเอง: บทเรียนจากภูกระดึง

อาจารย์ได้เปรียบเทียบความสวยงามของความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจการนี้ กับความงามของใบเมเปิลบนภูกระดึง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจได้อย่างแท้จริง หากไม่ได้ขึ้นไปสัมผัสด้วยตาตนเอง เช่นเดียวกับโมเดลชุมชนเห็ดเศรษฐกิจ ที่ต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะเข้าใจถึงกระบวนการ สร้างคน และบ่มเพาะความเป็นเจ้าของกิจการได้อย่างลึกซึ้ง

พลังทวีคูณของการสร้างคน: การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จากจุดเล็กๆ

หากมีสูตรสำเร็จในการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถสร้างงานได้อย่างมากมาย ผู้คนก็พร้อมที่จะลงทุน เช่นเดียวกันกับการ สร้างคน หากสามารถสร้างบุคคลที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงได้เพียงหนึ่งคน บุคคลนั้นจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ตามมา

แนวคิดเรื่องตัวคูณในการสร้างคน แสดงให้เห็นถึงพลังของการขยายผล หากสร้างคนได้ 1 คน เขาจะสามารถไปสร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดความรู้ให้กับอีก 10 คน และคนเหล่านั้นก็จะไปสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อไป การเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกรอบการผลิตเห็ด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 เดือน

ศาสตร์และศิลป์ในการทำงานชุมชน: หัวใจของการสร้างการเปลี่ยนแปลง

ในการเข้าหาแหล่งสนับสนุน อาจต้องใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลเชิงประจักษ์ แต่เมื่อลงสู่การปฏิบัติในชุมชน ต้องใช้ศิลปะในการเข้าถึงและทำงานร่วมกับผู้คน กลยุทธ์สำคัญของทีมโมเดลแก้จนเกษตรมูลค่าสูง คือการบูรณาการ "การวิจัย ความคิด ชีวิต วัฒนธรรม" เข้าด้วยกัน

การทำงานในพื้นที่ชุมชนไม่สามารถแยกกิจกรรมต่างๆ ออกจากกันได้ การไม่เข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน เปรียบเสมือนบัวใต้น้ำที่ไม่สามารถเติบโตและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ การสร้างความเข้าใจและทำงานร่วมกับชุมชนอย่างสอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรม จึงเป็นหัวใจสำคัญของการ สร้างคน และการพัฒนา กิจการ ที่ยั่งยืน

สร้างคนให้เป็นเจ้าของกิจการเห็ด กุญแจสู่การหลุดพ้นความยากจน

โมเดลชุมชนเห็ดเศรษฐกิจได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการ สร้างคน ให้มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ กิจการ อย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการลงมือปฏิบัติจริง การบ่มเพาะความผูกพัน และการปลูกฝังทัศนคติของการเป็นผู้ผลิต การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสมาชิก ไม่เพียงแต่ช่วยให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการหลุดพ้นจาก ความยากจน อย่างยั่งยืน

การให้ความสำคัญกับการสร้างคนและการทำงานร่วมกับชุมชน อย่างเข้าใจในบริบททางวัฒนธรรม จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายผลโมเดลนี้ไปยังชุมชนอื่นๆ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างต่อไป


สร้างคน สร้างการเป็นเจ้าของกิจการเห็ด: หัวใจสำคัญของโมเดลแก้จนที่ยั่งยืน


เรียบเรียงโดย : สมชาย เครือคำ (แตงโม สกลนคร)
ดำเนินการ : โครงการพัฒนาระบบห่วงโซ่การผลิตเกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ติดตามได้ที่ Onepoverty และ blockdit และ Facebook
แหล่งทุนวิจัย : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ติดตามได้ที่ งานยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า