
เรียบเรียง: แตงโม สกลนคร
ภาพ: ศักดิ์ดา แสนสุพรรณ
การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง กลไกสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมายนี้คือ การส่งเสริมให้คนในชุมชนมีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า นักวิจัยไทบ้าน แนวทางการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Community-Based Research: CBR) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนให้สามารถเป็น นักวิจัย เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้อย่างเข้มแข็ง
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอีสาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้าง นักวิจัยไทบ้าน และได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในหัวข้อ “การเสริมพลังกระบวนการเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเพื่อการเปลี่ยนแปลง” เมื่อวันที่ 10 – 12 กรกฎาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและทีมสนับสนุนงานวิจัยในภาคอีสาน ให้สามารถนำแนวทาง CBR ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปฐมบท CBR: จากแนวคิดสู่การปฏิบัติจริง
แนวคิดของการวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น หรือ CBR ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2541 โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่า สกว. จะยุบเลิกไปในปี 2562 แต่ระบบและกลไกที่สร้างไว้ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นต่อไป
การดำเนินงานของ CBR มุ่งเน้นไปที่การลดช่องว่างระหว่าง นักวิจัย จากภายนอกกับคนในชุมชน โดยเชื่อมั่นว่าชาวบ้านเองก็สามารถเป็น นักวิจัย ที่มีความเข้าใจบริบทของท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนได้ตรงจุดมากกว่า
แกนหลัก CBR: สร้าง นักวิจัยไทบ้าน เพื่อการเปลี่ยนแปลง
หัวใจสำคัญของการวิจัย CBR คือ การเปิดโอกาสให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการวิจัย ตั้งแต่การระบุปัญหา การวางแผนการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ผล ไปจนถึงการนำผลการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น
กระบวนการนี้เป็นการเสริมพลังให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่สำคัญของ CBR ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงองค์ความรู้หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาคนให้เป็น นักวิจัยไทบ้าน ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองอย่างยั่งยืน
เครื่องมือและกระบวนการ: หนุนเสริมศักยภาพ นักวิจัยท้องถิ่น
การอบรมเชิงปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครได้นำเครื่องมือและกระบวนการที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี มาถ่ายทอดให้กับผู้เข้าร่วมอบรม เครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้ ได้แก่- Problem Tree: เครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจปัญหาในชุมชนอย่างเป็นระบบ โดยการระบุสาเหตุและผลกระทบของปัญหา
- LogFrame (Logical Framework): กรอบตรรกะที่ช่วยในการวางแผนโครงการวิจัยและพัฒนา โดยกำหนดเป้าหมาย ผลลัพธ์ กิจกรรม และตัวชี้วัดอย่างชัดเจน
- Outcome Mapping: แนวทางการติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากโครงการ โดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- Impact Pathway: แนวทางการวิเคราะห์เส้นทางของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการ ตั้งแต่ผลลัพธ์ในระยะสั้นไปจนถึงผลกระทบในระยะยาว
ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้ลงมือปฏิบัติจริงกับเครื่องมือต่าง ๆ มากกว่า 30 ชิ้น ทำให้เกิดความเข้าใจในหลักการและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้
ผศ.ดร.บัญชร แก้วส่อง |
เสียงจากผู้มีประสบการณ์: พลังของ นักวิจัยไทบ้าน
ผศ.ดร.บัญชร แก้วส่อง อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น (สกว.) ได้กล่าวถึงหัวใจสำคัญของงาน CBR ว่าเป็นการกระตุ้นให้คนในชุมชนได้หยุดทบทวนตนเอง ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นมาและอนาคตของชุมชน ซึ่งกระบวนการนี้ได้สร้าง นักวิจัยท้องถิ่น มาแล้วกว่า 30,000 คน ในกว่า 2,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ
มุมมองที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ทัศนคติของชาวบ้านที่มีต่อนักวิจัยจากภายนอก ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น “นักวิจอก-วิจัย นักวิชาการ-วิชาเกิน” สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องระหว่างองค์ความรู้จากภายนอกกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
งาน CBR จึงเข้ามามีบทบาทในการลดช่องว่างนี้ โดยการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง นักวิจัย ภายนอกและ นักวิจัยไทบ้าน ทำให้ผลลัพธ์ของการวิจัยมีความสอดคล้องกับความต้องการและบริบทของชุมชนอย่างแท้จริง
ก้าวต่อไปของ CBR: สู่การพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน
ผลลัพธ์ที่สำคัญของการวิจัย CBR คือ การพัฒนาทั้งคนและองค์ความรู้ โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นแบบองค์รวม สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งขององค์กรและเครือข่าย และขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆ ที่สำคัญคือ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่องานวิจัยในชุมชน
โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าการวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่นก็เหมือนกับการใส่ปุ๋ยในนาข้าว ที่ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาสูตรอยู่เสมอเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด และหัวใจสำคัญของระบบและกลไกงาน CBR คือ การมี “ชาวบ้านเป็น นักวิจัย” ร่วมในทุกโครงการ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (CBR) เป็นกลไกสำคัญในการสร้าง นักวิจัย จากคนในชุมชน หรือ นักวิจัยไทบ้าน ให้มีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองอย่างยั่งยืน กระบวนการของ CBR ไม่เพียงแต่สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน แต่ยังเป็นการเสริมพลังและพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนให้สามารถเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง
การอบรมเชิงปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมและขยายผลแนวทางการวิจัย CBR ในภาคอีสาน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้าง นักวิจัยท้องถิ่น ที่เข้มแข็งและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวหน้าต่อไป
รศ.ดร.กาญจนา แก้วเทพ |
นายบุญเสริฐ เสียงสนั่น |
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
.jpg)