
ม.ราชภัฏสกลนคร ร่วมกับ พช.อำเภอพรรณานิคม ลงพื้นที่บ้านคำแหว เพื่อคืนข้อมูล ถอดบทเรียนงานวิจัย พร้อมทั้งลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ "สบู่สมุนไพรไทบรู" เป็นสินค้า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" หรือ OTOP เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567
คืนข้อมูลวิจัยโมเดลแก้จน การสร้างโอกาสทางสังคม
เทือกเขาภูพาน ฝั่งด้านที่ติดกับบ้านคำแหว ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (GPS) คือหมู่บ้านชาติพันธุ์ไทบรู ชาวบ้านมีวิถีการดำรงชีพและกลยุทธ์การเอาตัวรอดอยู่กับธรรมชาติ เป็นความภูมิใจเมื่อพูดถึงนายพรานหรือวิถีของพราน มีภูมิปัญญา ทักษะ และความเชี่ยวชาญการใช้ "ยาสมุนไพร" คือวิชชาที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษถึงปัจจุบัน ได้แก่ แก้ปวดกล้ามเนื้อ บำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้ ผ่อนคลาย และผดผื่นคันตามผิวหนัง ลองคิดดูว่าถ้าเราเดินป่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง นั้นแหละคือสิ่งจำเป็นที่ไทบรูต้องเตรียมป้องกันเช่นกัน
นักวิจัย ม.ราชภัฏสกลนคร ทีมปฏิบัติการโมเดลแก้จนเกษตรมูลค่าสูง ฯ ได้วิเคราะห์ทุนการดำรงชีพอย่างยั่งยืน (SLF.) พบว่า มีทุนสังคมและทุนมนุษย์น้อยมาก ไม่มีการรวมกลุ่มอาชีพ รวมถึงไม่มีทักษะอาชีพในทศวรรตที่ 21 ซึ่งสอดคล้องกับหลายคนพูดว่า "ไทบรูมีวัฒนธรรมที่เข้าถึงยาก ทำให้มีอุปสรรคในการพัฒนาหมู่บ้าน" ดังนั้นจึงเอาอัตลักษณ์ที่เป็นศักยภาพของไทบรูบ้านคำแหว นำมาพัฒนากรอบการวิจัยด้วยแนวคิดการสร้างโอกาสทางสังคม (Social Mobility) เพื่อสร้างมูลค่าจากสมุนไพร
.jpg)
บทเรียนในปฏิบัติการแก้จน "ล้มแล้วลุกไว" สู่ "บรูนิวเจน"
องค์ความรู้ที่ได้งานวิจัย คือ "วิจัยแก้จน ล้มแล้วลุกไว" ทีมงานเข้าพื้นที่ตั้งแต่ ปี 2565 เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมเกิดขึ้นมาก เข้ามาทดสอบมาหลายด้านและผ่านพ้นไปได้ด้วยกระบวนการวิจัย (ความคิดเห็นส่วนตัวผมเป็นกระบวนการคัดคน ด้วยทฤษฎีทางแยกของศีลธรรม) ได้แก่
- การสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพร ด้วยอัตลักษณ์ไทบรู ผ่านกลไกผู้นำทางจิตวิญญาณ
- การสร้างทีม ด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม ผ่านกลไก บ้าน วัด โรงเรียน (บวร)
- การสร้างผู้นำกลุ่ม ด้วยการบริหารความคาดหวัง ผ่านกระบวนการสร้างการยอมรับคนรุ่นใหม่หรือ "บรูนิวเจน" ตั้งกลุ่มอาชีพสมุนไพรบรูไฮ (ไทบรู)
"บรูนิวเจน" คือกระบวนการสร้างการยอมรับคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมโดยการปฏิบัติจริง (เจ็บจริง ได้จริง โดนด่าจริง) นายคำมี นวลอาสา ผู้ใหญ่บ้านคำแหว กล่าวว่า "การพัฒนาที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทิ้งไว้กลางทาง คือชาวบ้านหรือหน่วยงานพัฒนาไม่เกิดรูปธรรม ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำขาดรายได้มาอบรมจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่งานวิจัยนี้ทำตามบริบทของไทบรู และยังติดตามแก้ไข สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ พัฒนายกระดับจนเกิดรายได้แบ่งเงินกัน" คุณลักษณะคนรุ่นใหม่ที่ชาวบ้านยอมรับ คือ มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร กล้าแสดงออก วางแผนจัดการความเสี่ยง และช่วยเหลือแบ่งปันกัน
.jpg)
ลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ "สมุนไพรไทบรู" เป็นสินค้าโอท็อป
ต้องชื่นชม สนง.พัฒนาชุมชนอำเภอพรรณานิคม โดยคุณวาสนา สุดาชม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ ลงพื้นที่กลุ่มสมุนไพรบรูไฮ (ไทบรู) บ้านคำแหว เพื่อบริการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร เป็นสินค้าระดับ D คือสบู่สมุนไพรไทบรู ทั้ง 5 สูตร ได้แก่ สูตรมะขามน้ำผึ้ง มะขามกาแฟ มหาเมฆ พญาว่าน และสูตรน้ำผึ้งเดือนห้า ทะเบียนเลขที่ 470410001
คำพูดของคุณวาสนา โดนใจผมมาก คือ “ส่วนใหญ่เราจะว่างวันหยุด แต่ชาวบ้านไม่เคยหยุดหรอก มาได้ตลอด” แต่ที่จริงแล้ว ตามที่ผมลงชุมชนถึงแม้ชาวบ้านจะไม่มีวันหยุด แต่เขาก็ไม่ว่างต้อนรับทุกคนเสมอไป นี่คือของจริงเป็นของแทร่ (ของแท้) ทั้งชุมชน ชาวบ้าน ผู้นำ และภาคีเครือข่าย เห็นถึงความพร้อมของกลุ่ม ถึงแม้จะผ่านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมาหลายครั้ง แต่ยังเล่าเรื่องแก่นเดิมได้ คือ สมุนไพรไทบรู
![]() |
คุณวาสนา สุดาชม |
พญาว่าน สบู่ลดผื่นคัน
“พญาว่าน” สมุนไพรไทบรูสารตั้งต้นที่ใช้ทำสบู่ สูตรลดอาการคันตามผิวหนัง สินค้าขายดีของกลุ่มสมุนไพรบรูไฮ (ไทบรู) พ่อแก้ว นวลอาสา หรือพรานแก้ว ปราชญ์ด้านสมุนไพรในชุมชน เล่าให้ผมฟังว่า พญาว่านมีทั้งต้นผู้และต้นเมีย ปลูกในช่วงนี้แหละ (พฤษภาคม) ตามวันปลูกพืชของไทบรู เก็บผลผลิตนำหัวที่มีสารสำคัญไปใช้ประโยชน์ได้ช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม หรือต้นก่อยลงหมายถึงต้นแห้งเหี่ยวลง
- พญาว่านต้นผู้ มีลำต้นสีแดง ลงหัวเป็นเหง้าเหมือนขมิ้น
- พญาว่านต้นเมีย มีต้นสีเขียว ลงหัวใหญ่หนักประมาณ 1 กิโลกรัม
เมื่อผมถามว่า "ต้นผู้หรือต้นเมียให้สรรพคุณดีกว่า" พ่อแก้วตอบว่า "หมอยาสมุนไพรบอกต่อมาว่าต้นเมีย"
![]() |
พ่อแก้ว นวลอาสา |
แหล่งทุนวิจัย : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) งานยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)