
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นับเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่แสดงถึงความใส่ใจและการสนับสนุนจากภาครัฐ เมื่อ นายอำเภอ อากาศอำนวย ได้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมด้วยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการทำ นาปรัง ณ ทุ่งพันขัน บ้านดงสาร ตำบลโพนงาม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร การลงพื้นที่ครั้งนี้มิได้มีพิธีรีตอง แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง มุ่งเน้นการให้กำลังใจชาวบ้านและหารือแนวทางการขับเคลื่อนโมเดลแก้จน “คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว” ให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ทุ่งพันขัน: แหล่งผลิตนาปรังขนาดใหญ่และความท้าทายเดิม
พ่อเด่น ณัฐฏพล นิพันธ์ เกษตรกรคนสำคัญของ บ้านดงสาร ได้เล่าถึงความสำคัญของพื้นที่ "ทุ่งพันขัน" ว่าเป็นแหล่งทำ นาปรัง ขนาดใหญ่กว่า 4,000 ไร่ เนื่องจากในฤดูฝนพื้นที่ทั้งหมดจะถูกน้ำจากแม่น้ำสงครามท่วม ทำให้ไม่สามารถทำนาปีได้
- ข้อจำกัดของนาปรัง: แม้จะเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญ แต่ข้าว นาปรัง ที่ได้มักมีคุณภาพไม่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เมื่อนำไปหุงรับประทานจะมีเนื้อแข็ง ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องขายข้าวเปลือกในราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท แล้วนำเงินไปซื้อข้าวสารที่มีคุณภาพดีกว่า
- ปัญหาเมล็ดพันธุ์: เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาในการเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ ต้องซื้อหรือแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์เอง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและไม่ได้พันธุ์ตรงตามความต้องการ
จุดเปลี่ยนสำคัญ: "คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว" นวัตกรรมแก้ไขปัญหาคุณภาพ
การเข้ามาของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ได้นำมาสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ไขปัญหาคุณภาพข้าว นาปรัง ใน บ้านดงสาร
- แนวคิดคลังเมล็ดพันธุ์ข้าว: ทีมวิจัยได้เสนอแนวคิด "คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว" เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ โดยการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้
- เทคโนโลยีตะแกรงร่อน: พ่อเด่น ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นความร่วมมือว่า ตนเองในตอนแรกยังไม่มั่นใจ แต่เมื่อได้ฟังคำแนะนำเรื่องเทคโนโลยีตะแกรงร่อนคัดคุณภาพเมล็ดพันธุ์ก่อนนำไปหว่าน ก็เกิดความสนใจและตกลงร่วมงานกับทีมวิจัย
- ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ: หลังจากนำเทคโนโลยีตะแกรงร่อนไปทดลองใช้ พบว่าต้นข้าวแตกกอมากขึ้น ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ ข้าวที่ได้เมื่อนำไปนึ่งรับประทานมีความหอมนุ่มเหมือนข้าวนาปี ทำให้พ่อเด่นมั่นใจและชักชวนชาวบ้านคนอื่นๆ มาร่วมกันคัดเมล็ดพันธุ์ก่อนนำไปหว่าน นาปรัง
พ่อเด่น ได้รายงานผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ นายอำเภอ อากาศอำเภอได้รับฟังด้วยความรู้สึกปลื้มปิติยินดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จเบื้องต้นของโมเดลแก้จน

เสียงจากผู้นำชุมชน: ความภูมิใจและการสนับสนุน
นายวันเพ็ญ ไชยพรม ผู้ใหญ่บ้านดงสาร ได้กล่าวถึงความรู้สึกภูมิใจที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครเข้ามาสนับสนุนการทำ นาปรัง ในพื้นที่ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ นายอำเภอ ได้ให้ความสำคัญและลงพื้นที่มาเยี่ยมเยียนการดำเนินงานของชาวบ้านถึงทุ่งนา
โมเดลคลังเมล็ดพันธุ์ข้าว: อาชีพยั่งยืน ลดต้นทุน เพิ่มโอกาส
อาจารย์สายฝน ปุนหาวงศ์ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงความสำคัญของ "โมเดลคลังเมล็ดพันธุ์ข้าว" ว่าเป็นอาชีพระยะยาวที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน- ลดต้นทุนการผลิต: จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า เกษตรกรมีการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวในปริมาณมาก หากต้องซื้อเมล็ดพันธุ์เองจะมีต้นทุนสูงถึง 900,000 บาทต่อรอบการผลิต โมเดลนี้จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
- สร้างความมั่นคงทางเมล็ดพันธุ์: การพัฒนาอาชีพทำ นาปรัง เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพเอง จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนและสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรในระยะยาว
- เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ: นอกจากการผลิตเมล็ดพันธุ์แล้ว โมเดลนี้ยังส่งเสริมการแปรรูปข้าวเม่า ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และเตรียมพัฒนาสู่การท่องเที่ยวชุมชน "พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต" ร่วมกับภาคีเครือข่าย
- ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม: จากการดำเนินงาน มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ถึง 55 ครัวเรือน มีแปลงปลูกข้าวพันธุ์ 55 ไร่ ช่วยลดรายจ่ายต้นทุนการผลิตประมาณ 1,083 บาทต่อครัวเรือน และมีปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ได้มากถึง 55,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 715,000 บาทต่อปี
วิสัยทัศน์ของนายอำเภอ: การเชื่อมโยงและสร้างมูลค่าเพิ่ม
นายอำเภอ สุทธิเมศวร์ บุญแสนกุลธวัช ได้กล่าวชื่นชม บ้านดงสาร ที่เป็นแหล่งผลิตข้าว นาปรัง ขนาดใหญ่ และเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับคุณภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ด้วยงานวิจัย
- การเชื่อมโยงตลาด: แม้จะไม่สามารถกำหนดราคาข้าวเองได้ แต่ นายอำเภอ ได้มองเห็นโอกาสในการเชื่อมโยงช่องทางการตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับมือกับแหล่งแปรรูปข้าวเม่าที่มีชื่อเสียงในอำเภอ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต
- การบูรณาการการพัฒนา: การสนับสนุนโมเดล "คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว" สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนามิติเศรษฐกิจของอำเภอในประเด็นอาชีพเห็ด ข้าว และโคเนื้อ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำเกษตรที่เชื่อมโยงกันในพื้นที่
- การให้กำลังใจ: นายอำเภอ ได้กล่าวขอบคุณทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ที่เข้ามาช่วยเหลือให้ชาวบ้าน บ้านดงสาร ได้มองเห็นแสงสว่างและโอกาสในการพัฒนา

สู่ความมั่นคง: กระบวนการวิจัยและการสร้างกลไก
กระบวนการวิจัยของทีมมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ได้ดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนและมีประสิทธิภาพ
- การนำทาง: การนำทางให้พ่อเด่นได้พบกับ "เสี่ยว" ที่มีความรู้และเทคโนโลยี จนนำไปสู่การติดตั้งเทคโนโลยีตะแกรงร่อน
- การร่วมทาง: การร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนากระบวนการทำข้าว นาปรัง พร้อมทั้งเชื่อมโยงโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ
- การส่งทาง: การสนับสนุนให้เกิดกองทุนคลังเมล็ดพันธุ์ข้าวร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
บทสรุป: ความหวังและความร่วมมือสู่ความมั่นคงของชาวนาบ้านดงสาร
การลงพื้นที่ติดตามการทำ นาปรัง ที่ทุ่งพันขัน บ้านดงสาร ของ นายอำเภอ อากาศอำนวยในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและการสนับสนุนจากภาครัฐต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โมเดล "คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว" ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับชุมชน ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ความหวังและความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของชาว บ้านดงสาร กำลังเติบโตอย่างเข้มแข็งบนผืนดินแห่งทุ่งพันขัน





เรียบเรียงโดย : สมชาย เครือคำ (แตงโม สกลนคร)
ดำเนินการ : โครงการพัฒนาระบบห่วงโซ่การผลิตเกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ติดตามได้ที่ Onepoverty และ blockdit และ Facebook
แหล่งทุนวิจัย : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ติดตามได้ที่ งานยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ