สกลนคร ดัน 3 โมเดลแก้จนสร้างเศรษฐกิจรายครัวเรือน ในงาน บพท. สู้ชนะจนครั้งที่ 2ปี 2568

สกลนคร นำเสนอ 3 โมเดลแก้จนดันเศรษฐกิจรายครัวเรือน


เรื่อง: แตงโม สกลนคร

ในงานสัมมนาพลังปัญญา ชนะจน พ้นหนี้ เพิ่มรายได้ บนฐานบูรณาการ ข้อมูล เทคโนโลยี ภาคี และความสัมพันธ์ วันจันทร์ ที 8 กันยายน 2568 ณ ห้องบอลรูม A-B โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซนทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อํานวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ชี้ให้เห็นว่าพลวัตการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่สภาวะ "เซตซีโร" (Set Zero) หรือสงครามทางการค้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศกำลังพัฒนาเดินตามรอยประเทศพัฒนาแล้ว โดยมุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้รับอนุญาตจาก Google 

อย่างไรก็ตาม โมเดลการพัฒนาเช่นนี้สร้าง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ อย่างชัดเจน ก่อให้เกิดกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่พึ่งพิงรัฐ และทำให้สังคมส่วนใหญ่พึ่งพามาตรการสวัสดิการประชานิยมมากเกินไป จนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสร้างความเสี่ยงทางการคลังในระยะยาว

เศรษฐกิจฐานรากคือทางออกสู่ความยั่งยืน

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ดร. กิตติ เสนอแนวคิด "เศรษฐกิจที่มีดุลยภาพ" (Balanced Economy) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจฐานราก โดยมีเป้าหมายคือการสร้างความเข้มแข็งให้ครัวเรือนสามารถ จัดการตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาบุคลากรให้เป็น "สังคมแห่งการใช้ความรู้" เพื่อพัฒนาตนเองและส่วนรวม ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพิงรัฐและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจจากรากฐานที่แท้จริง

นโยบายและการขับเคลื่อน

การบรรยายพิเศษครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลการศึกษาและแนวทางในการ ปรับโครงสร้างภาคเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการต่างๆ เข้าถึงความเข้มแข็งในระดับครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน โดยงานนี้ได้รับแรงสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมถึงกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน สววน.) และภาคีเครือข่ายต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างต่อเนื่อง

สกลนคร นำเสนอ 3 โมเดลแก้จนดันเศรษฐกิจรายครัวเรือน

 มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ผนึกกำลัง 3 สถาบันอุดมศึกษา และ อว.ส่วนหน้า เดินหน้าแก้จน” ยกระดับคุณภาพชีวิตคนสกลนคร นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ก้องภาพ ชาอามาตย์ รองอธิการบดี ได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์ "กุดบากโมเดล" ที่ได้ร่วมมือกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเป็นระบบ

การขับเคลื่อนครั้งนี้ได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก 3 สถาบันอุดมศึกษา ภายใต้กลไก อว.ส่วนหน้า (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) ซึ่งเข้ามาเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย โดยได้พัฒนา 3 โมเดล หลักเพื่อการแก้จน ได้แก่

  • Local Content: การพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากโดยเน้นการใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่น
  • Pro-poor Value Chain: การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย
  • Area Based Industry: การส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีโมเดลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางสังคม ได้แก่ Social Safety Net, Disaster Risk Management, และ Financial Literacy เพื่อให้ประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจนเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือแล้วกว่า 3,938 คน

ภายในงานยังมีนิทรรศการแสดงความสำเร็จของการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีไปใช้จริง โดยจังหวัดสกลนครได้นำ “โมเดลแก้จนห่วงโซ่กรุงเขมา” มาจัดแสดง ซึ่งเป็นผลจากการนำความรู้ไปช่วยเกษตรกรในการปลูก หมาน้อย พืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ภาครัฐ และเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสกลนครให้ดียิ่งขึ้น


สกลนคร นำเสนอ 3 โมเดลแก้จนดันเศรษฐกิจรายครัวเรือน

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า