มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม

มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม

เรื่อง: แตงโม สกลนคร

การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนต้องเริ่มต้นจากรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นก็คือการ พัฒนาท้องถิ่น แต่ในประเทศไทย การพัฒนาในระดับท้องถิ่นยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย จนหลายครั้งทำให้ศักยภาพของชุมชนไม่ถูกดึงออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่

ซึ่งแตกต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้วที่มุ่งเน้นการสร้าง ชุมชนให้เป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็งและส่งเสริมให้ชาวบ้านเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้วยตนเอง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ผู้ผลิต ที่รอรับคำสั่งเท่านั้น

บทความนี้เป็นความคิดเห็นผู้เขียนถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในการ พัฒนาท้องถิ่น ของไทย และนำเสนอ “อปท.โมเดล” ซึ่งเป็นกรณีศึกษาจาก หน่วยการเรียนรู้ อบต. หนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ ที่ประสบความสำเร็จ อย่างน่าชื่นชม โดยเน้นการสร้าง ชุมชนเป็นฐาน และพัฒนาคน ให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเปลี่ยนแปลง และกำลังเผชิญหน้ากับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่จะเปลี่ยนระเบียบทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ต้องเตรียมรับมือ

ปัญหาที่ซ้ำซากของการพัฒนาท้องถิ่นในประเทศไทย

ทุกครั้งที่พูดถึงการ พัฒนาท้องถิ่น ภาพที่มักจะเกิดขึ้นคือการแจกจ่ายสิ่งของ การจัดอบรมที่ไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติจริง และโครงการที่เกิดขึ้นแล้วก็ล้มเลิกไปในที่สุด ปัญหาเหล่านี้มีรากฐานมาจากหลายปัจจัยที่ฝังลึกในระบบสังคมและโครงสร้างการบริหารจัดการของภาครัฐ

1. ความซับซ้อนของภาครัฐและนโยบายที่ไม่สอดคล้อง

ภาครัฐมีโครงสร้างหน่วยงานที่ซับซ้อน ทำให้การประสานงานขาดประสิทธิภาพ การพัฒนาจึงมักติดอยู่กับ “กับดักทางเทคโนโลยี” ที่เลือกใช้จากภายนอก แต่กลับไม่สามารถเชื่อมโยงให้เกิดห่วงโซ่อุปทานใหม่กับภูมิปัญญาภายในได้ การพัฒนาจึงเป็นไปเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนเท่านั้น ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


2. การจัดการความเสี่ยงที่ยังไม่เข้มแข็งของธุรกิจในชุมชน

หลายโครงการที่ได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องดูเหมือนจะไปได้ดี แต่เมื่อหน่วยงานภาครัฐถอนตัวออกไป กิจการมักจะประสบปัญหาและต้องล้มเลิก ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก

  • การบริหารจัดการที่ขาดประสิทธิภาพ: ทั้งในเรื่องการบริหารคน งาน และเงิน
  • จังหวะเวลาที่ไม่สอดคล้องกัน: ปฏิทินการทำงานของหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริมไม่สอดคล้องกับจังหวะการผลิตจริงของชุมชน
  • การประสานงานที่ขาดความยืดหยุ่น: การเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่ส่งเสริมกิจกรรมกับหน่วยงานที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงเร่งด่วนได้


3. ความไม่เชื่อมั่นและวัฒนธรรมการรอรับแจก

เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นานวันเข้า ชาวบ้าน ก็เริ่มขาดความเชื่อมั่นในโครงการของภาครัฐ และสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเข้าร่วมอบรมเพื่อหวังจะได้รับสิ่งของแจกมากกว่าการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองในระยะยาว


มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ก็ยังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จาก อปท.โมเดล ซึ่งเป็นบทเรียนจาก อบต. หนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการ พัฒนาท้องถิ่น ที่ยั่งยืนเป็นไปได้จริง

อปท.โมเดล: โมเดลความสำเร็จที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

โดยโมเดลนี้ได้นำแนวคิด “ชุมชนเป็นฐาน” มาใช้ในการพัฒนาอาชีพเกษตรอินทรีย์ ภายใต้โครงการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ได้รับการสนับสนุนจาก กสศ. ระหว่างปี 2562-2566 รวม 4 ปี (เว้นปี 2565) เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

1. หัวใจสำคัญของการสร้างรากฐานที่มั่นคง

ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานในพื้นที่ อปท.โมเดล เน้นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยหลักการดังนี้

  • การสร้างความเชื่อใจ: สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างเจ้าหน้าที่และ ชาวบ้าน ด้วยการแสดงความเคารพต่อศักดิ์ศรีของชุมชนอย่างแท้จริง รับฟังความคิดเห็นอย่างจริงจัง และสื่อสารข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่ทำไม่ได้จริง
  • การสร้างวัฒนธรรมองค์กร: การทำให้ทุกคนใน ชุมชน รู้สึกถึงความเป็น “เจ้าของ” คือกุญแจสำคัญ เริ่มจากการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมและกล้าแสดงความคิดเห็น รับฟังผู้อื่น และฝึกฝนการคิดเชิงกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อสร้างจิตสำนึกในการขับเคลื่อนและดูแลกิจกรรมด้วยตนเอง
  • อปท.คือหน่วยงานปฏิบัติการและเชื่อมโยงภาคี: อบต.หนองสนิท มีข้าราชการประจำที่มีจิตสำนึกรักบ้านเกิด นำโดยหัวหน้าสำนักปลัด ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน เกษตรกร วิชาการ และประชาสังคม


2. กระบวนการพัฒนา อปท.โมเดล ตำบลหนองสนิท

อปท.โมเดล ตำบลหนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ มีการพัฒนาท้องถิ่น 5 กระบวนการ ได้แก่ 1) ใช้พื้นที่รวมเป็นศูนย์กลาง 2) จัดตั้งกลุ่มองค์กรและศูนย์เรียนรู้ 3) วางแผนธุรกิจที่มีผู้ผลิตและมีตลาดต้องการจริง 4) นำโครงการเข้าแผนพัฒนาท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงภาคีหนุนเสริม 5) ทบทวนแผนงานและหล่อหลอม (Retraining)


มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม


ความสำเร็จของ อปท.โมเดล ไม่ได้มาจากเครื่องมือวิเศษ แต่มาจากการวิเคราะห์และปรับใช้แนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของ ชุมชน อย่างแท้จริง

เจาะลึกปัจจัย อปท.โมเดล สร้างชุมชนเป็นฐานการผลิตและผู้คิดค้น

1. การใช้ข้อมูลชุมชนเป็นฐานการตัดสินใจ

การให้ ชาวบ้าน เป็นผู้ร่วมระดมความคิดและตัดสินใจ คือหัวใจของโมเดลนี้ เพราะผู้ที่รู้ปัญหาและวิธีการแก้ไขดีที่สุดคือคนในพื้นที่เอง ข้อมูลจาก ชุมชน จึงกลายเป็นฐานสำคัญในการวางแผนและสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการจริง


2. กลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างชาญฉลาด

  • ยึดหลักแนวคิดการพัฒนาท้องถิ่นเป็นเป้าหมายในชีวิต: ศึกษาแนวคิดต่างๆ ให้เกิดจิตสำนึก อย่างต่อเนื่อง การตั้งปณิธานเป้าหมายจะเกิดความตระหนักในหลักคิด ในภายหน้าแม้จะทำงานอีกกี่โครงการก็จะยังคงการพัฒนาท้องถิ่น (หลักการเป็นสำคัญ ขั้นตอนที่ดีต้องยืดหยุ่น เป้าหมายชัดเจน)
  • การเชื่อมโยงเครือข่ายและงบประมาณ: โครงการถูกบรรจุในแผน พัฒนาท้องถิ่น แต่เลือกที่จะประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อขอรับงบประมาณ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยในเรื่องเงินทุน แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายและดึงผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐที่เหมาะสมเข้ามาร่วมสนับสนุน
  • การวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับตลาด: มีการศึกษาความต้องการของตลาดอย่างจริงจัง เพื่อให้ผลผลิตที่ได้สามารถขายได้และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
  • การจดตั้งกลุ่มองค์กรตามกฏหมาย: วิเคราะห์ศักยภาพของสมาชิกเพื่อเลือกรูปแบบกลุ่มองค์กรที่เหมาะสมในการจดตั้ง ได้แก่ สหกรณ์ แปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มอาชีพ ซึ่งในอนาคตสามารถปรับลด-เพิ่มขนาดองค์กรได้ ควรมีผู้ดูแลด้านทะเบียน บัญชี หรือพัฒนาทักษะให้มีผู้วางแผนธุรกิจ (BMC)
  • การแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์: เมื่อเจออุปสรรคเรื่องเงินทุนหรือข้อจำกัดด้านฤดูกาล ชาวบ้านได้ร่วมกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา เช่น การทำข้อตกลงร่วมกันว่าในการประชุมอบรมจะนำอาหารมาเอง เพื่อเปลี่ยนงบประมาณค่าอาหารไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น โรงเรือนหรือเมล็ดพันธุ์ หรือในระยะยาวมีการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งเงินทุน
  • การพัฒนาศักยภาพคน: สร้าง “วิทยากรฐานการเรียนรู้” จากคนในชุมชน เอง เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ที่สอดคล้องกับระบบการผลิตจริง และยังเป็นพื้นที่ให้ผู้สูงวัยได้ทบทวนและให้คำปรึกษาได้อย่างใกล้ชิด
  • การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า: พัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์มูลค่าสูงให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวบ้าน ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน


มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม

ปลดล็อกการพัฒนาท้องถิ่น สร้างกลไกการตรวจสอบสิทธิ์ทางเลือกรับมือภาษีนำเข้าสหรัฐฯ

ถ้าเราสามารถปลดล็อกแนวคิดกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นได้ จะเกิดโมเดลใหม่ในการพัฒนาท้องถิ่นภายใน 3 ปี อย่าง "อปท.โมเดล" ที่ อบต.หนองสนิท ระบุหน่วยตนว่ามีบทบาทในการเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย จะเห็นได้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ อปท.โมเดล ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยงจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าให้ชัดเจน การใช้เทคโนโลยีอย่าง AI และ บล็อกเชน (blockchain) ที่มี อปท. เป็นกลไกการตรวจสอบและรับรองได้ว่าวัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่ใช้ผลิตสินค้านั้นมาจากท้องถิ่นจริง ๆ เพื่อป้องกันการ "สวมสิทธิ์" และช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชนส่งออกสินค้าได้อย่างมั่นใจ

บทเรียนจาก อปท.โมเดล คือเครื่องยืนยันว่าการ พัฒนาท้องถิ่น จะสำเร็จได้อย่างแท้จริง เมื่อเปลี่ยนแนวคิดจากการให้ความช่วยเหลือแบบ “แจก” มาเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งจากภายใน ชุมชน เอง

ซึ่งการให้เกียรติ รับฟัง และเปิดโอกาสให้ ชาวบ้าน เป็นเจ้าของ เป็นผู้คิดค้น และเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง การพัฒนาเช่นนี้ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้กับท้องถิ่น

หากคุณต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน การเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการหันกลับมามองศักยภาพของคนใน ท้องถิ่น และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: การประเมิน SROI

มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม
มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม
มากกว่าผู้ผลิต: อปท.โมเดล สร้างชุมชนให้เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า