
ภายใต้ร่มเงาแห่งความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความยากจน โครงการโมเดลแก้จน “คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว” ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งการเรียนรู้และแบ่งปันที่งดงาม ณ บ้านดงสาร ตำบลโพนงาม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 27-28 ตุลาคม 2566 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ได้นำคณะ นักศึกษาวิศวกรสังคม หัวใจ จิตอาสา ร่วมลงแรงเกี่ยวข้าวพันธุ์ ร่วมกับชาวบ้านดงสาร เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการดำนาที่เคยเกิดขึ้น เป็นการเดินทางบนถนนสายวิจัยที่มุ่งสู่ “เส้นทางนางฟ้า” ปลายทางบ้านดงสาร เพื่อ “ตามปลูก ตามเก็บ” สัมผัสวิถีชีวิตและเรียนรู้ปัญหาจริงจากผืนนา
สืบสานภูมิปัญญา: การเรียนรู้วิถีนาจากรุ่นสู่รุ่น
บ้านดงสารเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาในการทำนาและการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน การลงแขกเกี่ยวข้าวครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ นักศึกษาวิศวกรสังคม จะได้เรียนรู้องค์ความรู้เหล่านี้โดยตรงจากประสบการณ์จริง
- การถ่ายทอดภูมิปัญญา: ชาวบ้านได้ถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการต่างๆ ในการทำนา ตั้งแต่การสังเกตต้นข้าว การคัดต้นข้าวปน (ข้าวหมาแหง่ง) ไปจนถึงวิธีการเกี่ยวข้าวและมัดข้าวอย่างถูกวิธี
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้: บรรยากาศการเกี่ยวข้าวเต็มไปด้วยการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ระหว่างชาวบ้านและนักศึกษา เป็นการเรียนรู้สองทางที่มีคุณค่า
- คุณค่าของแรงงาน: การลงมือเกี่ยวข้าวด้วยตนเอง ทำให้นักศึกษาได้ตระหนักถึงความเหนื่อยยากและความอดทนของชาวนา ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญในการเข้าใจปัญหาและหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุด

น้ำใจไมตรี: ความสุขท่ามกลางความเหนื่อยล้า
แม้ว่าการเกี่ยวข้าวภายใต้แสงแดดจะเหนื่อยล้า แต่บรรยากาศในแปลงนากลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้ม จิตอาสา ของ นักศึกษาวิศวกรสังคม ผสานกับน้ำใจไมตรีของชาวบ้าน ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข
- การลงแขก:วัฒนธรรมการลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน
- ความสนุกสนาน: เสียงหัวเราะและการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและสร้างความผูกพันระหว่างผู้ร่วมกิจกรรม
- พลังแห่งการทำงานร่วมกัน: การร่วมแรงร่วมใจกันเกี่ยวข้าวประมาณ 5 ไร่ เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานเป็นทีม
ผลผลิตแห่งความร่วมมือ: สู่เป้าหมายการพึ่งพาตนเอง
จากการประเมินของชาวบ้านดงสาร คาดว่าจะได้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมุกดาประมาณ 2,000 กิโลกรัม ซึ่งจะเป็นต้นทุนสำคัญในการเพาะปลูก นาปรัง ในพื้นที่ทุ่งพันขันต่อไป
- การสร้างความมั่นคงทางเมล็ดพันธุ์: การมีเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพของตนเอง ช่วยลดต้นทุนการผลิตและสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร
- การวางแผนการเพาะปลูก: เมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการเกี่ยวข้าวครั้งนี้ จะถูกนำไปคัดเลือกและวางแผนกระจายให้กับสมาชิกประมาณ 50 ครัวเรือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำ นาปรัง ในฤดูถัดไป
- การต่อยอดโมเดลแก้จน: เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้ เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโมเดลแก้จน “คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว” ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

ถอดบทเรียนจากผืนนา: ปัญหาและแนวทางการแก้ไข
กิจกรรม จิตอาสา เกี่ยวข้าวครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักวิจัยและ นักศึกษาวิศวกรสังคม ได้เรียนรู้และเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงในกระบวนการทำนา
- การรื้อฟื้นวิถีดั้งเดิม: นักวิจัยพบว่า ขั้นตอนสำคัญในการทำนาแบบดั้งเดิม เช่น การเลือกเมล็ดพันธุ์และการปักดำ ได้ถูกละเลยไปเนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่สูงขึ้น
- การบูรณาการเทคโนโลยี: หลังจากนี้ นักวิจัยและชาวบ้านจะร่วมกันออกแบบและเลือกใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนา
- การเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย: การดึงภาคีเครือข่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโมเดลแก้จนให้ประสบความสำเร็จ
สู่ศูนย์รวมองค์ความรู้: โมเดลคลังเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อชุมชน
โมเดลแก้จนคลังเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านดงสาร กำลังก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ที่สำคัญของชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อ
- รวบรวมองค์ความรู้: เป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาดั้งเดิม เทคโนโลยี นวัตกรรม และชนิดพันธุ์ข้าวพื้นถิ่น
- สร้างธรรมนูญชุมชน: กำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน
- บริหารกองทุน: เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการกองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าวและกองทุนอื่นๆ ในชุมชน
- ขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ: ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เป็นของชุมชนโดยชุมชน
บทสรุป: พลังแห่งจิตอาสาและการเรียนรู้สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
กิจกรรม จิตอาสา เกี่ยวข้าวของ นักศึกษาวิศวกรสังคม ณ บ้านดงสาร เป็นภาพสะท้อนที่งดงามของการเรียนรู้ร่วมกัน การแบ่งปันน้ำใจ และความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา ความยากจน อย่างยั่งยืน การได้ลงมือสัมผัสวิถีชีวิตจริงของชาวนา ได้มอบบทเรียนอันลึกซึ้งและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับนักศึกษา ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความหวังให้กับชุมชนบ้านดงสาร โมเดลคลังเมล็ดพันธุ์ข้าว จึงมิได้เป็นเพียงโครงการแก้จน แต่เป็นการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนด้วยพลังแห่ง จิตอาสา และการเรียนรู้ร่วมกันบนผืนแผ่นดินแห่งนี้







เรียบเรียงโดย : สมชาย เครือคำ (แตงโม สกลนคร)
ภายใต้งานวิจัย : โครงการพัฒนาระบบห่วงโซ่การผลิตเกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ปี พ.ศ.2566
ติดตามได้ที่ : Onepoverty และ blockdit และ Facebook
แหล่งทุนวิจัย : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) งานยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ