Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร

Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร

เรื่อง: แตงโม สกลนคร

มรภ.สกลนคร ร่วมกับ Local Alike จับมือชาวบ้านดงสาร ยกระดับงานวิจัยเชื่อมโยงนวัตกรรมแก้จน จัดสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศ “ทุ่งพันขัน” 16 – 18 สิงหาคม 2566 ประเมินเป็น “ชุมชนดาวดวงน้อย” เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” สู่การท่องเที่ยวโดยชุมชน แก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ

“ทุ่งพันขัน” ทรัพยากรอันล้ำค่าแห่งลุ่มน้ำสงคราม

พื้นที่ชุ่มน้ำบ้านดงสาร ตำบลโพนงาม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร มีที่ตั้งชุมชนติดกับแม่น้ำสงคราม (ตอนล่าง) ริมฝั่งห่างจากหมู่บ้านเพียง 3-5 กิโลเมตร มีพื้นที่ป่าบุ่งป่าทามหรือชาวบ้านเรียกว่า “ทุ่งพันขัน” เนื้อที่ตามทะเบียนที่สาธารณะประโยชน์ (นสล.) รวมทั้งสิ้น 4,625 ไร่ เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่มากกว่า 100 ปี มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของ “ป่าบุ่งป่าทาม”

เมื่อถึงฤดูฝนทุกปี น้ำจากลำน้ำสงครามจะไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มดังกล่าวเป็นบริเวณกว้าง จากการขึ้นลงของน้ำในลำน้ำสงครามนั้น มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับการอพยพย้ายถิ่นของปลาตามธรรมชาติ เมื่อเวลาน้ำหลากท่วมป่าบุ่งป่าทาม ปลาจากแม่น้ำโขงจะว่ายมาตามลำน้ำสงครามเข้ามาหาอาหารและวางไข่ในป่าบุ่งป่าทามริมแม่น้ำ และเมื่อหมดฤดูน้ำ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ในป่าบุ่งป่าทามก็จะเจริญงอกงาม ชาวบ้านก็จะได้อาหารจากป่าทาม ได้แก่ หน่อไม้ เห็ด และพืชสมุนไพร

ป่าบุ่งป่าทาม จึงเป็นต้นกำเนิดของแหล่งอาหารอันสมบูรณ์ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำสงคราม การตั้งถิ่นฐานของชุมชนจึงมักตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นกลุ่มบนที่ดอน และอยู่ใกล้กับป่าทามที่อุดมสมบูรณ์


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร

โมเดลแก้จน “คลังเมล็ดพันธุ์ข้าว” สอดคล้องกับบริบทพื้นที่บ้านดงสาร

ระบบข้อมูลครัวเรือนยากจนระดับพื้นที่จังหวัดสกลนคร (P2P Application) โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร รายงานงานวิจัยการพัฒนากระบวนการเพิ่มรายได้เกษตรกรด้วยระบบการผลิตเกษตรมูลค่าสูงฯ ปี 2565 รายงานว่า กลุ่มเป้าหมายมีทุนดำรงชีพในการทำนาปรัง สอดคล้องกับบริบทชุมชนชาวบ้านมีความจำเป็นต้องปลูกข้าวเพื่อบริโภค ได้ออกแบบโมเดลแก้จน (Operating Model) เพื่อแก้ปัญหาเมล็ดข้าวแข็งบริโภคไม่ได้และลดรายจ่ายซื้อเมล็ดพันธุ์ มีแปลงทดลอง 40 ไร่ ในพื้นที่ทุ่งพันขัน เกิดการจัดตั้งกองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าว 1,000 กิโลกรัมหรือ 1 ตัน


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
ครูสุวรรณ บงศ์บุตร

คุณครูสุวรรณ บงศ์บุตร ผู้นำชุมชน กล่าวว่า “การทำนาปรังจึงเป็นทางเลือกเพื่อลดค่าใช้จ่ายซื้อข้าวในครัวเรือนได้ครึ่งหนึ่ง พื้นที่ชนบทไม่มีทางเลือกมากนักอาชีพเสริมต่าง ๆ ทำได้แค่เหมาะสมกับกำลังซื้อของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงเกิดแนวคิดอยากพัฒนาทุ่งพันขันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ น่าจะมีผู้คนเข้ามาซื้อสินค้าและบริการในชุมชน


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
อ.สายฝน ปุนหาวงศ์

อาจารย์สายฝน ปุนหาวงศ์ หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า พื้นที่ทุ่งพันขันบ้านดงสารมีศักยภาพด้านทรัพยากรมาก มีวิถีการดำรงชีพทำมาหากินการเกษตรกรหมุนเวียนทั้งปี ได้แก่ ทำนา ประมง เลี้ยงควาย และอาหารป่า แต่ละฤดูกาลจะมีกลยุทธ์หรือวิถีการดำรงชีพที่แตกต่างกัน เป็นโอกาสในการยกระดับและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตามความต้องการของชาวบ้าน โดยได้เชิญคุณไผ สมศักดิ์ บุญคำ CEO และผู้ก่อตั้ง Local Alike กิจการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน (Social Enterprise) ได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน มากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

ด้วยปฏิบัติการโมเดลแก้จนเกษตรมูลค่าสูง สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจ Local Alike จึงเป็นโอกาสที่จะเชื่อมโยงความร่วมมือเพื่อเตรียมส่งต่องานพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวนาปรังให้เป็น Local Rice อ.สายฝน กล่าวถึงโอกาส


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร

อนาคตดงสารกับการท่องเที่ยว “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต”

โครงการวิจัยโมเดลแก้จนเกษตรมูลค่าสูง ฯ จัดกิจกรรมการเชื่อมโยงนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ “การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศน์เห็ด ปลา ป่า ข้าว” ได้เชิญ คุณไผ สมศักดิ์ บุญคำ (ผู้ก่อตั้ง Local Alike) และคุณณนภ ม่วงเกลี้ยง (Project manager บริษัท Local Alike) มาเป็นวิทยากรในการสำรวจเส้นทางรวมถึงโอกาสพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน

การท่องเที่ยวโดยชุมชน Local Alike มีกระบวนการพัฒนาสินค้าและบริการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ยกระดับเป็นธุรกิจชุมชน โดยคำนึงถึง “ความยั่งยืน” ของสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม กำหนดทิศทางและจัดการโดยชุมชนเพื่อชุมชน ชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของมีสิทธิในการจัดการดูแลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้มาเยือน การตัดสินใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนคือหัวใจสำคัญ Local Alike จึงให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยวทางเลือกหรือ Alternative Tourism เป็นสำคัญ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย 40 ล้านคนต่อปี รายได้จากการท่องเที่ยว 1.9 ล้านบาทต่อปี


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร


ตลอดระยะเวลา 3 วัน ได้รับการต้อนรับจากชุมชนเป็นอย่างดี ทั้งการเป็นมิตรภาพ การอำนวยความสะดวกลงพื้นที่ศึกษาสถานที่ต่าง ๆ การเล่าเรื่อง อาหาร และอีกหลายๆ อย่าง ที่ได้รับคำชมจาก Local Alike พร้อมทั้งได้สรุปต้นทุนบ้านดงสารว่ามีศักยภาพมาก ประกอบด้วย
  • ทุนมนุษย์ มีกลุ่มผู้นำชุมชนเข้มแข็ง อบต.ให้ความร่วมมือ มีปราชญ์ชาวบ้าน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ประกอบการ
  • ทุนสังคม มีการอยู่แบบเครือญาติ มีความสามัคคี อบอุ่น มีการทำงานกันในรูปแบบเครือข่ายและกลุ่ม ชมรม
  • ทุนกายภาพ มีพื้นที่ทางการเกษตร นาปรัง พื้นที่บึงแห่งความรัก คาเฟ่กลางท้องนา สะพานดอนหลวงพัฒนา จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก
  • ทุนธรรมชาติ เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทั้งสัตว์และพันธุ์พืช เช่น นกกาบบัว แม่น้ำสงคราม ทุ่งพันขัน หนองหมากแซว กุดสิ้ว ดอนเล้าข้าว ต้นไม้ใหญ่ เห็ดใหญ่ ยุงใหญ่
  • ทุนการเงิน มีหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนอยู่สม่ำเสมอ
  • ทุนวัฒนธรรม วัฒนธรรมด้านอาหารการกินมีเอกลักษณ์สูง ภาษาพื้นถิ่นมีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นในภาคอีสาน วิถีชีวิตเกษตรกร ชาวประมง ดำรงวิถีชีวิตอย่างเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการอยู่รอดในชุมชน

Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
คุณสมศักดิ์ บุญคำ

คุณสมศักดิ์ บุญคำ CEO Local Alike กล่าวว่า เป็นโอกาสสำหรับ Local Alike มากกว่า ได้มาเจอชุมชนบ้านดงสารที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มาก ยังคงวิถีชีวิตการดำรงชีพและการเกษตรตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ เป็น พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต …ก่อนหน้านี้แอบกังวลว่าชุมชนดงสารจะคาดหวังกับ Local Alike แต่จากการสำรวจทุนด้านต่างๆ ของดงสารสองวันที่ผ่านมานี้ Local Alike จะนำพาความหวังและความฝันมาสู่ชุมชนดงสารเอง

ทั้งนี้ Local Alike ได้ให้ชุมชนวาดภาพอนาคต (Future Casting) ด้วยการพาดหัวข่าวจากอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า อยากเห็นชุมชนหน้าตาเป็นอย่างไร เพื่อกำหนดเป้าหมายและสร้างความสมดุลระหว่างภาพฝันและการเตรียมตัวรับมือกับความไม่แน่นอนที่เราควบคุมไม่ได้ อีกทั้งจะนำไปวิเคราะห์หา Keyword ในการสื่อสารสำหรับการท่องเที่ยวในอนาคต สำหรับบ้านดงสารประเมินระดับการท่องเที่ยวจัดเป็น “ชุมชนดาวดวงน้อย” ที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้และเริ่มขยับการพัฒนาร่วมกันไปสู่ชุมชนท่องเที่ยว

พร้อมทั้งให้แนวทางการพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (SUSTAINABLE TOURISM) ร่วมกับ Local Alike 5 ขั้นตอน ได้แก่ พัฒนาคน พัฒนาธุรกิจ พัฒนาการตลาดและเทคโนโลยี พัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และพัฒนาภูมิทัศน์ การทำท่องเที่ยวโดยชุมชนทุกที่เริ่มต้นที่พัฒนาคนเป็นหัวใจสำคัญ ใช้เวลาสร้างความเข้าใจนานกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี หลังจากนี้ Local Alike จะนำข้อมูลต้นทุนบ้านดงสารไปเสนอแหล่งทุนกับภาคีเครือข่าย เพื่อนำมาพัฒนาชุมชนตามกระบวนการขับเคลื่อนงานให้ครบองค์ประกอบการท่องเที่ยวต่อไป


Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร

เป็นช่วงที่เหมาะสมพร้อมทุกด้าน พื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรพร้อมให้ความรู้เหมาะสำหรับผู้คนที่อยากเข้ามาศึกษาวิถีการอยู่รอดในชุมชน งานวิจัยเดินหน้าแก้ไขปัญหาระบบผลิตที่สำคัญจัดการให้มีมูลค่าสูงร่วมกับหน่วยงานกลไกพัฒนาในพื้นที่ พร้อมทั้งเตรียมส่งต่อการพัฒนาร่วมกับ Local Alike จิ๊กซอว์ภาคีสำคัญที่มีเครือข่ายอีกมากมาย มีเป้าหมายเดียวกัน คือ แก้ปัญหาความยากจนให้ครัวเรือนเลื่อนระดับฐานะทางสังคมได้ เป็นนวัตกรรมแก้จนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ

ซึ่งในอนาคตไม่เกิน 10 ปี อาจได้เห็นพาดหัวข่าวว่า เที่ยวเมืองไทย “ไปไส…ไปดงสาร (Pai Sai Pai Dongsarn)”


เกี่ยวกับ:
ดำเนินการ : โครงการพัฒนาระบบห่วงโซ่การผลิตเกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
แหล่งทุนวิจัย : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ติดตามได้ที่ งานยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ



Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
Local Alike ตั้งใจพัฒนา “พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีชีวิต” ท่องเที่ยวชุมชนดงสาร
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า