
ในห้วงเวลาแห่งการออกพรรษา ซึ่งตรงกับเดือนสิบเอ็ดตามจารีตของชาวอีสาน ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ได้ถูกสืบทอดอย่างมั่นคงและยิ่งใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของ ฮีตสิบสอง หรือธรรมเนียมปฏิบัติ 12 เดือนของภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ จังหวัดสกลนคร ประเพณีนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลอง แต่เป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาอันลึกซึ้งต่อพระพุทธศาสนา และความหวังในชีวิตหลังความตายที่ดีงาม
ความเชื่อและตำนาน จาก "วันพระเจ้าเปิดโลก" สู่ "ปราสาทบุญ"
จุดกำเนิดของประเพณีนี้หยั่งรากลึกในพุทธประวัติ เชื่อมโยงกับเหตุการณ์สำคัญที่เรียกว่า "วันพระเจ้าเปิดโลก" ในสมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อโปรดพุทธมารดา ครั้นถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวันมหาปวารณาออกพรรษา พระองค์ได้เสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ ณ ประตูเมืองสังกัสสนคร
เพื่อรับเสด็จ พระอินทร์ได้เนรมิตบันได 3 ชนิด
- บันไดทองคำ สำหรับเหล่าเทพเทวดา
- บันไดเงิน สำหรับพระพรหม
- บันไดแก้วมณี สำหรับพระพุทธองค์
ในขณะที่พระพุทธองค์เสด็จลงมา เหล่ามนุษย์ นาค และแม้แต่สัตว์นรก ต่างได้เห็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์และชื่นชมในพระบารมี ด้วยแรงศรัทธาและความปรารถนาที่จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี มีปราสาทอันสวยงามเหมือนวิมานบนสวรรค์ จึงเกิดความตระหนักว่าหนทางเดียวที่จะไปถึงจุดนั้นได้คือการ สร้างบุญกุศล และประพฤติปฏิบัติตนในศีลธรรมอันดีงาม การสร้าง "ปราสาทกองบุญ" จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวิมานที่ปรารถนาบนสรวงสวรรค์
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเล่าขานในท้องถิ่น หนองหารหลวง สมัย พระเจ้าสุวรรณภิงคาร ที่โปรดให้ข้าราชบริพารจัดทำ "ต้นเผิ่ง" (ต้นผึ้ง) เพื่อแห่ไปถวายที่ วัดพระธาตุเชิงชุม ในวันออกพรรษา ซึ่งเป็นการสืบทอดมาแต่โบราณ

ปราสาทผึ้ง สัญลักษณ์แห่งพุทธบูชาและความมั่งมี
สำหรับชาวสกลนคร การสร้างปราสาทผึ้งถือเป็น การทำบุญเพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้าผ่านองค์พระธาตุเชิงชุม พวกเขาเชื่อมั่นว่า อานิสงส์จากการถวายปราสาทผึ้ง นี้จะส่งผลให้ชีวิตหลังความตายไปเกิดในภพภูมิที่ดี หากได้ไปเกิดบนสวรรค์ก็จะมีปราสาทอันสวยงาม มีเหล่านางฟ้าเป็นบริวาร หรือหากได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะมีความสุขและ ความมั่งมีศรีสุข
ธรรมเนียมนี้เป็นที่ประจักษ์มานานแล้ว ดังที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงบันทึกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2449 ถึงการแห่ปราสาทผึ้งและบั้งไฟรอบองค์ พระธาตุพนม ที่เมืองนครพนม โดยมีขบวนแห่อันวิจิตรตระการตาที่ประกอบด้วยปราสาททำจากหยวกกล้วยประดับด้วยดอกไม้และขี้ผึ้ง แสดงให้เห็นว่าประเพณีนี้ได้รับการปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนานและเกี่ยวพันกับความเชื่อทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง
มรดกทางศรัทธาแห่งสกลนคร
ในปัจจุบัน จังหวัดสกลนคร ได้จัดให้ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งเป็น งานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ตระการตา มีการจัดขบวนแห่ปราสาทผึ้งที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยเทียนขี้ผึ้งและลวดลายอันงดงาม เปรียบประดุจวิมานบนสวรรค์จริงๆ ดึงดูดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาชมความงามและร่วมทำบุญ ณ วัดพระธาตุเชิงชุม เป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและศรัทธาอันเก่าแก่ให้คงอยู่คู่แผ่นดินอีสานสืบไป
การแห่ปราสาทผึ้ง จึงมิใช่เพียงแค่พิธีกรรมตามฤดูกาล แต่คือการรวมศรัทธา ความหวัง และศิลปะพื้นบ้านเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นกระจกสะท้อนความเชื่อที่ว่า "การสร้างบุญในโลกมนุษย์ คือกุญแจสู่ปราสาทอันสวยงามในภพหน้า"

